วันพฤหัสบดีที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562

ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายของโจวซิงฉือ

 

                                  รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

                            ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยายของโจวซิงฉือ

     คงไม่มีใครไม่รู้จัก "โจวซิงฉือ" แสดงหนังจีน "นักเตะเสี้ยวลิ้มยี้" เป็นแน่แท้ นักแสดงหนุ่มชาวจีนอารมณ์ดีที่ผันตัวมาเป็นผู้กำกับ ในผลงานที่ผ่านมาของเขาเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จไปทุกๆเรื่อง ด้วยฝีมือการแสดงที่เน้นเสียงหัวเราะ แบบทะเล้นแต่มีเสน่ห์เหลือเกิน ถ้าได้ประกบคู่ อู่ม่งต๊ะเมื่อไหร่ เป็นฮากระจาย แต่ใครจะรู้ว่าก่อนที่เขาจะเข้าวงการมีชื่อเสียงจนร่ำรวยมาได้ ชีวิตของเขาวัยเด็กนั้นลำบากยิ่งกว่าภาพยนต์ในบทบาทขอทานที่เขาชอบเล่นเสียอีก วันนี้เราจะพาไปอ่านเรื่องราวที่ใครหลายคนต้องเสียน้ำตาอย่างแน่นอน

 - ตอนที่พ่อกับแม่หย่ากัน ผมเพิ่งอายุ 7 ขวบ ศาลตัดสินให้ผมกับพี่สาวและน้องสาวอยู่กับแม่ ช่วงปี 1968 ที่ฮ่องกง แม่เลี้ยงดูเรา 3 พี่น้องด้วยความยากลำบาก แม่ต้องทำงาน 2 ที่ แต่โชคดีที่ลูกๆล้วนเป็นเด็กดี โดยเฉพาะผมตั้งใจเรียนมาก สอบได้คะแนนดีตลอดทำให้เป็นลูกรักของแม่

- แต่มีแค่เรื่องเดียวที่แม่เป็นห่วงพวกเรา คือ เรื่องอาหารการกิน ลูกๆ กำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโต ไม่ว่ากระเบียดกระเสียรแค่ไหน แม่ก็ต้องหาเนื้อหาปลามาให้พวกเรากินเสมอ แต่อาจเป็นเพราะผมถูกตามใจจนเคยตัว หรือไม่ก็เพราะนานๆ จะมีเนื้อมีปลากินสักครั้ง ทันทีที่อาหารขึ้นโต๊ะ ผมก็จะยกจานมาไว้ตรงหน้าตัวเอง เลือกกินของที่ชอบ พี่สาวน้องสาวก็ดีเหลือเกิน ไม่เคยแย่งผมกินเลย แต่ว่าผมกินไม่ค่อยมาก กินแค่สองสามคำก็เลิกกิน หันไปเล่นซน - ผมยังมีนิสัยเสียอีกอย่าง คือ ชอบเอาของกินมาเคี้ยวเล่น แล้วก็คายกลับลงบนจาน ของที่ผมคายทิ้งนั้นพี่สาวน้องสาวไม่กล้ากิน แต่เพราะเสียดายของ แม่จึงเป็นคนกินทุกครั้ง นิสัยเสียนี้แม่ตำหนิผมหลายครั้ง แต่ก็ไร้ประโยชน์ อาจเพราะว่าเรื่องเรียนเรื่องนิสัยอื่น ผมไม่มีปัญหาอะไร แม่จึงยอมให้เพราะคิดว่าเป็นนิสัยซนของเด็กๆ
- แต่มีครั้งหนึ่ง แม่โกรธจริงๆและลงมือทำโทษผมด้วย….ครั้งนั้น แม่ไม่ได้เงินเดือนมา 2 เดือนแล้ว ต้องไปยืมเงินคนอื่นมาซื้อน่องไก่ 2 น่องให้พวกเรากิน น่องไก่ย่างจนเหลืองหอม พอยกขึ้นโต๊ะผมก็ปีนขึ้นไปหยิบใส่ปากกัดคำโต แถมยังทำท่าทำทางล้อเลียนพี่สาวน้องสาวด้วย ทันใดนั้น น่องไก่ก็หลุดมือตกลงบนพื้น เปื้อนดินจนสกปรก

                                       ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ โจวซิงฉือ

- แม่ทั้งโกรธทั้งเสียดาย คว้ากิ่งไม้มาหวดผมสิบกว่าครั้ง จนพี่สาวน้องสาวต้องเข้ามาดึงตัวผมออกมา แม่ถึงยอมวางไม้ลงได้ ทั้งแม่ทั้งลูกสามคนกอดกันร้องไห้…หลังคราบน้ำตาแห้งลง พวกเราก็เริ่มกินข้าวกันใหม่ แม่เสียดายน่องไก่ จึงเก็บขึ้นมาแล้วเอาน้ำร้อนลวก แล้วกินเสียเอง
- คืนวันนั้น แม่เข้ามากอดผม แล้วถามว่า “ยังเจ็บมั้ย? วันหลังจะซนอีกมั้ย?” ความจริงผมยังเจ็บอยู่ แต่แอบยิ้มพร้อมบอกแม่ไปว่า “นอนเถอะครับ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียนแต่เช้า”
- สิบกว่าปีให้หลัง ผมกับแม่ไปออกรายการโทรทัศน์ แม่เล่าเรื่องนี้ให้ผู้ชมฟัง และบอกว่า “ตอนเด็กๆ ผมซนมาก ไม่รู้เลยว่ากับข้าวแต่ละอย่างหามายากลำบากแค่ไหน ไม่รู้จักคุณค่าของเลย”
- ผมย้อนคิดถึงเรื่องนี้อยู่สักพัก แล้วก็บอกออกไปว่า “ไม่ครับแม่ ผมรู้ว่าแม่ลำบาก…แต่ถ้าผมไม่แกล้งทำน่องไก่ตกดิน แม่จะยอมกินไหม? สมัยเด็กๆ มีของกินดีๆ อะไร แม่ก็จะให้พวกเราสามพี่น้องกินเสมอ แม่กินข้าวเปล่ากับผักดองตลอด ผมก็เลยคิดอุบาย เคี้ยวเนื้อแล้วก็คายทิ้ง แม่ถึงยอมกินเพราะความเสียดาย”
                            รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

- พอแม่ได้ยินความลับที่เก็บงำมากว่าสิบปี ถึงกับน้ำตาริน บอกว่า “แม่น่าจะคิดได้ตั้งนานแล้ว เพราะเจ้าเป็นเด็กดีทุกเรื่อง ยกเว้นแค่เรื่องกินเรื่องเดียวที่นิสัยเสีย”
- ในครั้งนั้น ผมกับแม่กอดกันร้องไห้อย่างไม่อายผู้ชม ผมเห็นว่าผู้ชมหลายคนก็แอบเสียน้ำตาด้วย….ผมเป็นทั้งนักแสดงและผู้กำกับหนังมากมายหลายเรื่อง แต่การแสดงที่ดีที่สุดของผมก็คือ ตอน 7 ขวบครั้งนั้น เพราะเป็นการแสดงที่ออกมาจากเบื้องลึกของหัวใจ หากแต่มีผู้ชมเพียงคนเดียว ก็คือ “แม่” ของผม”

ที่มา  https://www.tnews.co.th/contents/424443

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น